ปฏิทินของฉัน

วันศุกร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2553

เคล็ดลับเพื่อสุขภาพ


เคล็ดลับเพื่อสุขภาพและความงามที่ผู้หญิงควรรู้


บันไดสู่สาวสมองใส
คนเราเมื่ออายุมากขึ้น ความจำแทนที่จะเพิ่มขึ้นแต่
กลับลดลงสำหรับคุณๆ ที่กลัวว่าจะกลายเป็นคนอัลไซเมอร์
ควรจะเลือกรับประทานอาหารที่ช่วยเพิ่มความจำค่ะ อาหารที่มีประโยชน์
ในการบำรุงสมองนั้น จำพวกผัก ได้แก่ บรอกโคลี่ มะเขือเทศ
เมล็ดฟักทอง ส่วนธัญพืชต่างๆ ได้แก่ รำข้าว ข้าวซ้อมมือ
ไขมันจากปลา ซีเรียลถั่ว บูลเบอร์รี่ อาหารจำพวกนี้ล้วนแต่
ช่วยบำรุงสมองทำให้ความจำดีขึ้นค่ะ


กินตามใจให้ได้หุ่นสวย
การรักษาสุขภาพร่างกายให้หุ่นดีด้วยการบริหารการกิน
ทำได้ยากเหลือเกิน เพราะจะต้องควบคุมในเรื่องของการรับประทาน
ไปหมด แต่มีอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้คุณหุ่นสวยได้โดยไม่ต้องงดอาหาร
ก็คือ ให้ัรับประทานอาหารเ่ช่นเดิม แต่ให้หันมาใส่ใจความรู้สึก
ให้มากขึ้น เมื่อคุณรู้สึกอิ่มเมื่อไหร่ให้คุณหยุดทานทันที


อาหารเช้าคือมื้อที่สำคัญที่สุด
ในสังคมปัจจุบันนี้เกือบ 80 เปอร์เซ็นต์ ที่คนส่วนใหญ่มิได้ให้ความสำคัญ
กับอาหารเช้า เนื่องจากต้องเร่งรีบแข่งกับเวลาเพื่อไปเรียน หรือ ไปทำงาน
คนไทยเราจะให้ความสำคัญกับอาหารเย็น เน้นว่าเป็นมื้อที่ต้องรับประทาน
อาหารหนักๆ มากกว่ามื้ือกลางวัน ส่วนมื้อเช้านั้นบางคนข้ามไปเลย
บางคนก็ดื่มกาแฟเพียง 1 ถ้วยเท่านั้น สังเกตให้ดีจะพบว่าคุณจะรู้สึกไม่สดชื่น
กระปรี้กระเปร่า ถ้ามื้อเช้าคุณไม่ได้ให้สารอาหารที่ร่างกายต้องการ คือ
อาหารโปรตีนสูงและไขมันอย่างพอเพียง อาหารเช้าที่หนักเกินไปก็เป็นเรื่อง
ที่ไม่ถูกต้อง ร่างกายต้องการเพียงสารอาหารที่ครบถ้วนในปริมาณไม่มากนัก
เพื่อที่คุณจะได้มีกำลังวังชา สมองปลอดโปร่ง กระปรี้กระเปร่า พลังงานจะอยู่
ในร่างกายคุณเป็นเวลานานและทำให้คุณไม่หิวบ่อยถ้าได้รับประทานอาหารเช้าที่ดี


ผมหงอกก่อนวัยกินอาหารช่วยได้
เมื่อคุณมีเส้นผมบางส่วนที่หงอกขาว ทั้งๆ ที่อายุยังไม่มากนักคุณแก้ไขด้วยการ
สาเหตุที่สำคัญมาจากการรับประทานอาหารใ็นมื้อเย็นดึกเกินไป
ย้อมสีผมซึ่งจะช่วยได้ดีพอควร แต่ก็ต้องย้อมกันเป็นประจำตลอดไปแน่นอน
และหนักเกินไป ดังนั้น การรับประทานมื้อดึกของคุณ
อาหารบางอย่างมีคุณสมบัติช่วยบำรุงเส้นผม เล็บมือ และผิวของคนเราอย่างได้ผล
ควรจะหลีกเลี่ยง น้ำอัดลม น้ำเย็น รวมทั้งเนื้อสัตว์ชนิดต่างๆ
เส้นผมหงอกนั้นเป็นเพราะขาดทองแดง กรดโฟลิก กรดแพนโทเทนิก และ พาบา
เพราะอาหารพวกนี้มีผลต่อระบบย่อยอาหารทำให้ลำไส้ทำงานหนักค่ะ
คุณสามารถแก้ไขเส้นผมที่หงอกขาวให้กลับมาดำสนิทดังเดิมได้ด้วยการรับประทาน
โยเกิร์ต ตับ และยีสต์ โดยมีข้อแม้ว่าจะต้องรับประทานปริมาณมากๆ ทุกมื้อ และ
ทุกๆ วันอย่างสม่ำเสมอ


น้ำผึ้งก็เป็นยาอายุวัฒนะ
สารอาหารสำคัญๆ ในน้ำผึ้งที่มีอยู่เต็มเปี่ยม ก็คือ
ในอาหารจานยำ หรือ จานผัดที่มีสะระแหน่โรยมาด้วยนั้น คุณควรจะรับประทานมากๆ
โปรตีน วิตามินบี 1 บี 2 บี5 และ บี12 ไบโอติน เหล็ก ทองแดง
เพราะ สะระแหน่ใบเล็กๆ กลิ่นแรงๆ นี่แหล่ะ มีคุณค่าสารอาหารไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
แมงกานีส ซิลิคอน แคลเซี่ยม โซเดียม โพแทสเซี่ยม ฟอสฟอรัส
สะระแหน่มีเมนทอล และน้ำมันหอมระเหย จึงช่วยกระตุ้นปลายประสาทผิวหนัง
กำมะถัน โบรมีน และคลอรีน น้ำผึ้งมีสรรพคุณทางยา ช่วยบำรุง
ช่วยขับเหงื่อลดคลายอาการหกเกร็งของกล้ามเนื้อ แก้อาการเป็นหวัดคัดจมูก
ร่างกายให้กระปรี้กระเปร่าแข็งแรง สดชื่น เพิ่มพลัง แก้เบื่ออาหาร
แก้ร้อนใน บำรุงสมองให้ปอลดโปร่งและช่วยให้ตาสว่าง คึกคักสดชื่น ไม่ง่วงซึม
บำรุงหัวใจ บำรุงข้อต่างๆ ช่วยให้นอนหลับสบาย น้ำผึ้งจัดเป็น
อาหารเสริมที่ดีที่คุณควรสนใจ หมั่นรับประทานเป็นประจำทุกๆ สัปดาห์
ก็จะช่วยบำรุงร่างกายให้มีสุขภาพดีอย่างที่คุณพิสูจน์ได้


สูตรผิวสวย


เคล็ดลับง่ายๆ ที่ทำให้ผิวของคุณสวยใส เพียงแค่นำโยเกิร์ต 1 ถ้วย
คลายจางลงไปได้ ด้วยการรับประทานอาหารทีุ่อุดมไปด้วยเซเลเนียม
ผงขมิ้น ผงไพร อย่างละ 1 ช้อนชา ผงนมสำหรับนวด 1 ซอง
เช่น หอยนางรม ปลาทูน่า ไก่งวง นม ซึ่งมีกรดโฟลิก
นำส่วนผสมทั้งหมดนี้มาผสมเข้าด้วยกัน แล้วนวดให้ทั่วทั้งใบหน้าและ
เมื่อรับประทานอาหารเหล่านี้แล้ว จะช่วยให้คุณมีอารมณ์แจ่มใส
ลำตัว พอกทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออกด้ยน้ำเปล่า
ไม่หงุดหงิดฉุนเฉียวง่าย เนื่องจากการขาดกรดโฟลิก สารทริบโตแฟน
ทำเป็นประจำสัปดาห์ละครั้ง จะทำให้ผิวของคุณขาวสวยใส และ
มีผลให้เกิดความแปรปรวนในอารมณ์ และอาการทางจิตประสาทได้นั่นเอง
ดูมีน้ำมีนวลมากยิ่งขึ้นค่ะ

เต้นเพื่อความบันเทิง

มีรูปภาพมานำเสนอ

















ถ้าอยากมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงต้องมั่นออกกำลังกายเป็นประจำและควรพักผ่อนให้เพียงพอ



การบริหารสุขภาพจิต

การมีสุขภาพจิตที่ดีคนที่มีสุขภาพจิตดี คือคนที่สามารถปรับตัวเข้ากับเหตุการณ์หรือสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ ได้ ไม่ว่าเหตุการณ์นั้นจะเป็นไปในทางดีหรือร้าย แนวทางที่จะทำให้มีสุขภาพจิตดีมีหลายแนวทางดังต่อไปนี้

๑. ครอบครัวร่มเย็นเป็นสุขเด็กที่มีปัญหาทางพฤติกรรมต่างๆ มักจะมาจากครอบครัวแตกแยกเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นบุคคลในครอบ- ครัวจะต้องช่วยกันทำให้ครอบครัวร่มเย็นเป็นสุข มีความรักต่อกันอย่างแน่นแฟ้น ครอบครัวเปรียบเสมือนโช้กอัพ (shock absorber) หรืออุปกรณ์กันสะเทือนของรถยนต์ เมื่อสมาชิกมีปัญหาร้าย ครอบครัวก็ช่วยกันแก้ไข เยียวยา ปลอบประโลม หาทางแก้ไขจนเรื่องร้ายกลายเป็นดี เมื่อสมาชิกมีโชคดีครอบครัวก็ช่วยแสดงความยินดีด้วย บางครั้งถึงกับเลี้ยง ฉลอง เป็นต้นยิ่งเป็นผู้สูงอายุ ยิ่งต้องเป็นหลักชัยของครอบครัว ช่วยชี้แนะลูกหลานในทางดี เป็นผู้นำในกิจกรรมเกี่ยว กับประเพณีวัฒนธรรมของครอบครัว จะทำให้คนในครอบครัวทุกคนมีสุขภาพจิตดี การที่ผู้สูงอายุจะเป็นหลักชัยของครอบครัวได้ดี จำเป็นที่ผู้สูงอายุต้องเรียนรู้ให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ของโลก และเข้าใจกับการเปลี่ยนแปลงของสังคม ปัจจุบัน อย่าจมปลักอยู่กับอดีต จนทำให้เด็กสมัยใหม่ล้อเลียนว่า "ไดโนเสาร์-เต่าล้านปี"การที่ผู้สูงอายุคิดไปอยู่บ้านคนชรา หรือหนีครอบ-ครัวไปอยู่คนเดียวเป็นความคิดที่ผิด ทำนองเดียวกัน การที่ลูกหลานคิดนำพ่อแม่ ปู่ย่า ตายายไปอยู่บ้านพักคนชรา ไม่ทดแทนบุญคุณ...เป็นบาปจงช่วยกันทำครอบครัวให้ร่มเย็นเป็นสุข แล้วทุกคนจะมีสุขภาพจิตดี

๒. มีเพื่อนสนิทมิตรสหายและไม่อยู่เดียวดายมนุษย์เป็นสัตว์สังคมต้องอยู่เป็นหมู่คณะ แต่ละคนก็ต้องมีเพื่อนเป็นธรรมดาเพื่อนคือของหวานแห่งชีวิต เมื่ออายุยังน้อยก็มีเพื่อนร่วมเรียน อายุมากขึ้นก็มีเพื่อนร่วมงาน สูงวัยหรือสูงอายุ เพื่อนเก่าๆ เริ่มล้มหายตายจากไปเป็นธรรมดา จำเป็นที่จะต้องหาเพื่อนใหม่ไว้เพิ่มเติมเสมอ เพื่อไว้คุยปรึกษาหารือกัน ไม่จำเป็นต้องมีเพื่อนอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน แต่ถ้าใกล้เคียงก็ย่อมดี ปัจจุบันมีการตั้งชมรมผู้สูงอายุตามชุมชนมากมาย ผู้สูงอายุสามารถเลือกเป็นสมาชิกชมรมใกล้บ้าน จะได้มีเพื่อนใหม่และมีกิจกรรมร่วมกันช่วยคลายความเหงาได้มาก ทำให้สุขภาพจิตดีขึ้น

๓. รู้จักแก้ปัญหาที่ถูกต้องทุกคนในโลกนี้ไม่มีใครไม่มีปัญหา ปัญหาทำให้เกิดทุกข์ เราต้องรู้จักแก้ทุกข์ หรือแก้ปัญหานั้นให้ได้ อย่าหนีปัญหาเพราะหนีอย่างไรก็ไม่พ้นจงแก้ปัญหาด้วยปัญญาและเหตุผล ถ้าปัญหาไม่มีทางแก้ให้หายขาดได้ จงปรับตัวอยู่ให้ได้อย่างดีที่สุด
๔. รู้จักพอปัจจุบันคนส่วนใหญ่ที่มีปัญหาสุขภาพจิตมักเกิดจากความโลภไม่รู้จักพอ แล้วมีผลทำให้เครียด ผลจากความเครียดก็จะทำให้สุขภาพทั้งกายและจิตเสียไปด้วย การรู้จักพอเท่านั้นที่จะแก้ปัญหาอันนี้ได้

๕. มีงานทำตลอดเวลาทุกคนต้องทำงาน งานอะไรก็ได้ ไม่ว่างานนั้นจะมีรายได้หรือไม่มีรายได้ ขอให้เป็นงานที่ไม่เบียดเบียนตนเอง ผู้อื่น และสิ่งแวดล้อม ตนนั้นแลเป็นที่พึ่งแห่งตน คนที่ไม่ทำงานจะซึมเศร้าและคิดมาก พลอยให้สุขภาพจิตเสีย แต่การทำงานช่วยแก้ทุกข์ได้

๖. ใช้ธรรมะจรรโลงใจธรรมะในทุกศาสนาจะชี้แนะให้ทุกคนมีสุขภาพจิต ดีทั้งนั้น ขอให้ปฏิบัติและศึกษาธรรมะของแต่ละศาสนาให้ถูกต้อง โดยเฉพาะเรื่องสติและวิปัสสนา จะช่วยทำให้ สุขภาพจิตดีได้มาก

5 เคล็ดลับวิธีการกินเพื่อสุขภาพ


เคล็ดไม่ลับ 5 วิธีการเลือกอาหารเพื่อสุขภาพตามช่วงอายุ

การรู้จักเลือกรับประทานอาหารไม่เพียงแต่ช่วยเรื่องสุขภาพเท่านั้น หากยังเอื้อต่อความสวยความงามอีกด้วย ความจริงการเลือกอาหารให้เหมาะสมตามช่วงวัยก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้สุขภาพดีได้ เพราะในแต่ละช่วงอายุมีความแตกต่างกันในด้านพัฒนาการของร่างกายและลักษณะการดำเนินชีวิต วันนี้จึงขอเสนอเรื่องราวของอาหารที่เกี่ยวข้องกับช่วงอายุทั้ง 4 ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใดที่คุณจะลองทำตาม

วัยที่ขึ้นต้นด้วยเลข 2 ช่วงอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไปเป็นช่วงที่ร่างกายมีการพัฒนาและเติบโตเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียน การทำงาน และเป็นวัยที่ใช้ชีวิตอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ยิ่งมีการเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวันมากเท่าไร ร่างกายก็ยิ่งเผาผลาญและใช้พลังงานมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้น ควรเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสม โดยเลือกรับประทานจำพวกเนื้อสัตว์และถั่วต่างๆ รวมถึงข้าวและแป้งมากเป็นอันดับหนึ่ง ตามด้วยผักผลไม้เป็นอันดับสอง ส่วนนมและอาหารทดแทนแคลเซียมต่างๆ เช่น เต้าหู้ ปลาเล็กปลาน้อย นมถั่วเหลืองเสริมแคลเซียม ตามมาเป็นอันดับสาม และให้ความสำคัญของไขมันเป็นอันดับสุดท้าย ปลาเป็นอาหารสมองที่ช่วยรักษาผนังเซลล์ประสาทในสมองให้แข็งแรง ไม่หลงลืมอะไรง่ายๆ ผักสีเขียวอย่างผักบุ้ง ผักกระเฉด ผักคะน้า ถั่วฝักยาว ช่วยบำรุงสายตา สร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ผักผลไม้สีเหลืองอย่างกล้วยหอมก็ถือเป็นผลไม้คลายเครียดชนิดหนึ่ง

วัยที่ขึ้นต้นด้วยเลข 3 อายุขึ้นเลข 3 หลายคนเริ่มตกใจกลัว แต่การรู้จักเลือกรับประทานจะทำให้ผู้อื่นไม่สามารถเดาอายุคุณจากรูปร่างหน้าตาได้เลย ในช่วงเริ่มวัยผู้ใหญ่ความต้องการพลังงานยังคงอยู่ เพราะเป็นช่วงชีวิตของการทำงาน แต่ต้องเพิ่มความระมัดระวังในเรื่องของไขมันและโคเลสเตอรอลที่จะส่งผลกระทบกับรูปร่างหน้าตาภายนอกที่เห็นการเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจน นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายในอนาคตด้วย เพราะการรับประทานอาหารที่มีไขมันหรือโคเลสเตอรอลสูง เช่น หมูสามชั้น เนยแข็ง กะทิ เนยเทียม เป็นต้น จะสร้างปัญหาให้หลอดเลือดและหัวใจ แต่คุณสามารถเลือกรับประทานอาหารที่ช่วยลดไขมันและโคเลสเตอรอล เช่น ปลาทะเล ช่วยลดความดันโลหิต พวกถั่วเมล็ดแห้งอย่างถั่วแดง ถั่วเขียว ถั่วเหลือง ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคหัวใจ และมีโปรตีนสูงเพื่อให้พลังงานแทนสัตว์ใหญ่ได้อีก อาหารจำพวกข้าว ธัญพืชไม่ขัดสี อย่างข้าวซ้อมมือ ขนมปังโฮลวีท มีใยอาหารสูง ช่วยให้อิ่มท้องนานและส่งผลดีต่อระบบลำไส้

วัยที่ขึ้นต้นด้วยเลข 4 วัยทองถูกเรียกแทนวัย 40 ปีขึ้นไป เนื่องจากสภาพร่างกายเริ่มเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะผู้หญิง ส่วนผู้ชายวัยนี้ก็จะเริ่มมีโรคต่างๆที่ไม่เคยออกอาการ ซึ่งเรียกกันว่าเป็น “วิถีทางธรรมชาติ” แต่ทั้งนี้การชะลอวัยหรือป้องกันโรคต่างๆที่มากับวัยไม่ได้ยุ่งยากเกินกว่าที่เราจะทำได้ สำหรับช่วงวัยนี้ความต้องการพลังงานจะลดลง แต่ความต้องการแคลเซียมและวิตามินต่างๆเพิ่มขึ้น ซึ่งจะได้รับจากผักผลไม้ที่มีกากใยอาหารสูง แล้วยังมีสารต้านอนุมูลอิสระอย่างวิตามินซีจากอาหารที่หารับประทานได้ง่าย เช่น ส้ม ฝรั่ง มะเขือเทศ แคนตาลูป ส่วนอาหารที่มีวิตามินอี ได้แก่ น้ำมันพืช เนยถั่ว ถั่วลิสง อัลมอนด์ นอกจากนี้ควรรับประทานเต้าหู้ โปรตีนไขมันต่ำ ซึ่งให้แคลเซียมมากกว่าเนื้อสัตว์อย่างอื่น แต่ไม่ควรลืมหลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นตัวเร่งความแก่ให้เร็วขึ้น เช่น อาหารไขมันสูงประเภททอดกรอบหรือผัดน้ำมันมากๆ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มกาเฟอีนทั้งหลาย

วัยที่ขึ้นต้นด้วยเลข 5 การก้าวเข้าสู่ช่วงวัย 50 เป็นต้นไปนั้นไม่ได้ส่งผลต่อร่างกายอย่างเดียว แต่ยังส่งผลต่อสภาพจิตใจด้วย เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับวัยนี้คุณควรเข้าใจการทำงานของร่างกายที่มีประสิทธิภาพลดลง โดยเฉพาะระบบการย่อยการดูดซึมอาหาร ทำให้ร่างกายขาดสารอาหารบางอย่าง ช่วงนี้คุณอาจไม่รู้สึกกระหายน้ำเท่าไหร่ แต่ควรดื่มน้ำให้สม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 8-12 แก้ว เพื่อป้องกันการขาดน้ำโดยไม่รู้ตัว ควรรับประทานคาร์โบไฮเดรตให้น้อยลงและพยายามเลือกชนิดไม่ขัดสี เน้นอาหารจำพวกปลาเพื่อไม่ให้ขาดโปรตีน ที่สำคัญคือเป็นเนื้อสัตว์ที่ย่อยง่าย

วัยนี้จะพบปัญหากระดูกเปราะ กระดูกพรุนอย่างชัดเจน ดังนั้น ควรได้รับแคลเซียมอย่างเพียงพอ อาหารแคลเซียมสูงอยู่ในนม โยเกิร์ตชนิดครีม เนยแข็ง หรือแม้แต่ปลาตัวเล็กตัวน้อย พวกผักใบเขียวก็มี เช่น คะน้า กวางตุ้ง และบรอกโคลี จะช่วยลดปัญหาเรื่องกระดูกให้รุนแรงน้อยลง การแก้ไขภาวะขาดน้ำอาจให้ดื่มน้ำสมุนไพร เช่น กระเจี๊ยบ เก๊กฮวย น้ำใบเตย นอกเหนือจากน้ำเปล่า เพราะช่วยบรรเทาโรคบางอย่างและให้ประโยชน์กว่าการดื่มเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีน

สิ่งสำคัญไม่ว่าคุณจะอยู่ในช่วงวัยใดควรดูแลเรื่องการกินอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นโรคหรือไม่ก็ตาม เพราะคนส่วนใหญ่มักจะดูแลตัวเองเมื่อพบว่าตัวเองมีโรคหรือมีปัญหาสุขภาพแล้วเท่านั้น นอกจากนี้การเพิ่มกิจกรรมเคลื่อนไหวระหว่างวันให้มาก ทำบ่อยๆจนติดเป็นนิสัย จะช่วยให้สุขภาพดีมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะประโยชน์ด้านระบบการไหลเวียนเลือด ควบคุมน้ำหนักตัว และลดความเครียดของร่างกายได้

วันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2553



10 วิธี การกินอย่างฉลาด
ในแต่ละวันเราจำเป็นต้องรับประทานอาหารมากมาย มีคำแนะนำจากหลายสำนักให้กินนั่น ห้ามกินนี่จนไม่รู้จะเชื่อใครดี วันนี้เราจึงมีเคล็ดลับง่ายๆ ของการกินให้ได้ประโยชน์สูงสุดต่อสุขภาพอย่างเต็มที่มาฝาก

1. กินอาหารเช้า เป็นพฤติกรรมพื้นฐานที่ส่งผลต่อจิตใจ และพลังชีวิตของคุณไปตลอดทั้งวัน และช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด ลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ ช่วยเผาผลาญพลังงานให้ดีขึ้น ทำให้คุณกินอาหารในมื้ออื่นๆ น้อยลง

2. เปลี่ยนน้ำมันที่ใช้ปรุงอาหาร ยอมจ่ายแพงสักนิดใช้น้ำมันมะกอก หรือน้ำมันดอกทานตะวัน ปรุงอาหารแทนน้ำมันแบบเดิมที่เคยใช้ เพราะเป็นไขมันที่ไม่เป็นโทษต่อร่างกาย และมีกรดไขมันอิ่มตัวที่เป็นประโยชน์ ช่วยลดไขมันในเส้นเลือดได้เป็นอย่างดี

3. ดื่มน้ำให้มากขึ้น คนเราควรดื่มน้ำวันละ 2 ลิตรเป็นอย่างน้อย (ยกเว้นในรายที่ไตทำงานผิดปกติ) เพื่อหล่อเลี้ยงเซลล์ในร่างกาย ฟื้นฟูระบบขับถ่าย รักษาระดับความเข้มข้นของเลือด จะทำให้สดชื่นตลอดวันเลยทีเดียว

4. เสริมสร้างแคลเซียมให้กับกระดูก ด้วยการดื่มนม กินปลาตัวเล็กทั้งตัวทั้งก้าง เต้าหู้ ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง ผักใบเขียว เพราะแคลเซียมเป็นสิ่งจำเป็นที่จะเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อและกระดูก ทำให้ระบบประสาททำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

5. บอกลาขนมและของกินจุบจิบ ตัดของโปรดประเภทโดนัท คุกกี้ เค้กหน้าครีมหนานุ่ม ออกจากชีวิตบ้าง แล้วหันมากินผลไม้เป็นของว่างแทน วิตามิน และกากใยในผลไม้ มีประโยชน์กว่าไขมัน และน้ำตาลจากขนมหวานเป็นไหนๆ

6. สร้างความคุ้นเคยกับการกินธัญพืชและข้าวกล้อง เมล็ดทานตะวัน ข้าวฟ่างและลูกเดือย รวมทั้งข้าวกล้องที่เคยคิดว่าเป็นอาหารนก ได้มีการศึกษาและค้นคว้าแล้ว พบว่า ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจถึง 1 ใน 3 เลยทีเดียว เพราะอุดมไปด้วยไฟเบอร์ ที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และควบคุมน้ำตาลในเลือดให้สมดุล

7. จัดน้ำชาให้ตัวเอง ทั้งชาดำ ชาเขียว ชาอู่ล่ง หรือเอิร์ลเกรย์ ล้วนแล้วแต่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ การดื่มชาวันละ 1 ถึง 3 แก้ว ช่วยลดอัตราเสี่ยงมะเร็งกระเพาะอาหารถึง 30%

8. กินให้ครบทุกสิ่งที่ธรรมชาติมี คุณต้องพยายามรับประทานผักผลไม้ต่างๆ ให้หลากสี เป็นต้นว่า สีแดงมะเขือเทศ สีม่วงองุ่น สีเขียวบล็อกเคอรี สีส้มแครอท อย่ายึดติดอยู่กับการกินอะไรเพียงอย่างเดียว เพราะพืชต่างสีกัน มีสารอาหารต่างชนิดกัน แถมยังเป็นการเพิ่มสีสันการกินให้กับคุณด้วย

9. เปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนรักปลา การกินปลาอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง ได้ทั้งความฉลาดและแข็งแรง เพราะปลามีกรดไขมันโอเมก้า 3 และโปรตีน ที่ช่วยควบคุมการเต้นของหัวใจให้เป็นปกติ และบำรุงเซลล์สมอง ทั้งยังมีไขมันน้อย อร่อย ย่อยง่าย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการหุ่นเพรียวลมเป็นที่สุด

10. กินถั่วให้เป็นนิสัย ทำให้ถั่วเป็นส่วนหนึ่งของอาหารที่คุณต้องกินทุกวัน วันละสัก 2 ช้อน ไม่ว่าจะเป็นของหวานของคาว หรือว่าของว่างก็ทั้งโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุสำคัญๆ หลายชนิด ต่างพากันไปชุมนุมอยู่ในถั่วเหล่านี้ ควรกินถั่วอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่ควรกินครั้งละมากๆ เพราะมีแคลอรี่สูง อาจทำให้อ้วนได้

เที่ยวอย่างสนุกสนาน